ข้อดี ข้อเสีย ของจุกนมหลอก!

การใช้จุกนมหลอก (Pacifier) มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากใช้ถูกวิธีก็ย่อมไม่มีอันตรายค่ะ
ข้อดีของจุกนมหลอก
เป็นการทดแทนความต้องการเรื่องการดูด และได้บริหารกล้ามเนื้อปาก เพราะเด็กเล็กยังมีความสามารถด้านการเคลื่อนไหวที่จำกัด ยังใช้มือคว้าของเล่นไม่ได้ และยังเล่นของเล่นหรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นไม่ได้ ความสุขจึงอยู่ที่การได้ดูด
ทำไมต้องใช้จุกนมหลอก
เด็กทารก บางคนปรับตัวค่อนข้างยาก หรือเป็นโคลิก ร้องไห้เก่งมากและร้องตลอดเวลา ต้องให้อุ้มหรือต้องดูดตลอดเวลาจึงจะเงียบได้ ทั้งที่ดูดจนพุงกาง ท้องป่อง หรืออาเจียนแล้ว หากให้ลูกกินนมแม่ คุณแม่ก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะได้นมเพียงพอหรือไม่ (ถ้ามีการถ่ายอุจจาระ 2 ครั้งขึ้นไป และปัสสาวะ 6 ครั้งขึ้นไปในหนึ่งวัน ก็ถือว่าพอค่ะ)
เด็กที่ดูดนมขวด หากให้ดูดนมทุกครั้งที่ร้องก็จะปวดท้อง อาเจียน และชินกับการกินมากเกินไปซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาโรคอ้วนตามมาได้ ดังนั้นคุณแม่สามารถใช้จุกนมหลอกในช่วงที่เด็กยังปรับตัวไม่ได้ คือช่วง 3 เดือนแรกได้ค่ะ เพื่อตอบสนองความต้องการเรื่องการดูดโดยไม่มีนมหรือลมเข้าท้องมากเกินไป
ถ้าจะเลิกจุกนมหลอกต้องทำอย่างไร
เมื่อเด็กเริ่มเลี้ยงง่าย ขยับแขนขาอย่างมีจุดหมาย และเริ่มเล่นอย่างอื่นเป็นแล้ว ควรหยุดใช้ และหาวิธีเล่นกับลูก พาเขาเดินเที่ยวชมนกชมไม้ และตอบสนองความต้องการให้ถูกต้อง

แต่หากติดนิสัยไปจนโต อาจทำให้…
– โครงสร้างของช่องปากและฟันผิดปกติ
– เสี่ยงต่อการเป็นหูติดเชื้อเพิ่มขึ้น
– ทำให้พูดช้าหรือพูดไม่ชัด
– ขาดทักษะในการเข้าสังคมหรือเล่นกับเด็กอื่น เพราะมีความสุขจากการคาบจุกนมหลอกอยู่คนเดียวได้
หากคุณแม่ประเมินดูแล้วพบว่าตอนนี้ลูกวัย 3 เดือนเริ่มเลี้ยงง่ายแล้ว ควรเลิกใช้ แล้วให้เวลาเล่นกับลูกมากขึ้น พาเข้านอนโดยการอุ้มหรือร้องเพลงกล่อมแทนการใช้จุกนมหลอก เดี๋ยวเขาก็ลืมได้เองค่ะ
บทความแนะนำ :
5 ขั้นตอนการเช็ดตัวลดไข้ให้ลูกแบบคุณแม่มืออาชีพ
8 โรคที่มาจากอาการปวดท้องของลูกพร้อมวิธีสังเกตอาการ
เคล็ดลับเช็ดตัวลดไข้ให้ลูกน้อย ได้ผลถึง 2 เท่า!
เลี้ยงลูกแบบนี้สิ! รับรองไม่เป็นเด็กอ้วนแน่
ขอบคุณข้อมูลจาก : facebook.com/SuthiRaXeuxPhirocnKic
