ป้องกัน “โรคซาง” ในเด็กเล็กควรทำยังไงดี?

ในอดีตโรคซาง พบมากในเด็กต่างจังหวัด เด็กที่เป็นซางจะมีลักษณะหัวโตก้นปอดหรือเรียกอีกอย่างว่า โรคหัวโตก้นปอด หรือโรคเลี้ยงไม่โต แท้จริงแล้วเด็กที่เป็นซางนั้น คือ เด็กขาดสารอาหารประเภทโปรตีน ทำให้กล้ามเนื้อลีบเล็กทำให้เลี้ยงไม่โต ในปัจจุบันภาวะโภชนาการของลูกทำให้โรคซางเริ่มเลือนหายไปจากสังคมยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่ตรวจพบในเด็กต่างจังหวัดและเรียกว่า โรคขาดสารอาหาร หรือ ภาวะเลี้ยงไม่โต
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ลูกเป็นเด็กเลี้ยงไม่โต มีดังนี้
- แม่ขาดความรู้ในการเตรียมอาหาร และอาหารที่เหมาะสมตามช่วงวัย
- ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอเนื่องมาจากปัจจัยด้าน เศรษฐกิจ สังคมไม่ดี
- เริ่มอาหารเร็วหรือช้าเดินไป เด็กควรได้รับอาหารมื้อแรก เมื่ออายุ 6 เดือนขึ้นไป
- มีการดูดซึมอาหารจากลำไส้ผิดปกติ เช่น ท้องร่วง/ท้องเสียเรื้อรัง หรือแพ้น้ำตาลแลกโตสในนม
- มีการใช้กำลังงานสารอาหารมาก หรือมีความต้องการกำลังงานสารอาหารมากในกรณีมีโรคบางอย่าง เช่น โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ โรคมะเร็ง หรือมีการอักเสบของลำไส้เรื้อรัง โรคหัวใจ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง
ป้องกันลูกเกิดปัญหาขาดสารอาหารเลี้ยงไม่โต ได้ดังนี้
- เด็กทารก ควรได้รับนมอย่างเดียวถึง 6 เดือน หลังจากนั้นให้อาหารเสริมตามวัย และให้นมควบคู่ไปด้วย
- ทารกและเด็กในแต่ละช่วงอายุต้องการกำลังงานแตกต่างกัน โดย อาหารที่ทารกและเด็กรับประทานควรมีสัดส่วนพลังงาน ที่สมดุล กล่าวคือ ในแต่ละวัน ควรได้กำลังงานจากคาร์โบไฮ เดรต 40-60% จากโปรตีน 7-15% และจากไขมัน 30 – 35% คุณแม่ต้องเติมน้ำมันลงในการเตรียมอาหารให้ลูกด้วยหลายคนเข้าใจผิดไม่ให้กินไขมันเลยกลัวลูกอ้วน
- คุณแม่ควรทราบว่าอาหารชนิดใดให้ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน เพื่อจัดเตรียมอาหารให้เด็กได้อย่างเหมาะสม
บทความแนะนำ :
โรคและภัยของลูกวัย 4 เดือน มีอะไรบ้าง?
รู้หรือไม่? “อาหารนอกบ้าน” ลูกเสี่ยงเป็นโรคทางเดินอาหาร
9 วิธีป้องกัน “โรคมือ เท้า ปาก” ที่พ่อแม่ควรรู้
4 ตัวการแพร่เชื้อโรคสู่อาหาร โปรดระวัง!!
ขอบคุณข้อมูลจาก : baby.haijai.com
ภาพจาก : babycenter.com
