พ่อแม่ต้องรู้!! 25 คำพูดนี้ไม่ควรใช้กับลูก!!

สำหรับพ่อแม่หลายๆ คนมักเผลอใช้คำพูดแย่ๆ ที่แม้จะไม่รุนแรงอะไรหากมองจากมุมของผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กแล้ว คำพูดแบบนี้ไม่เพียงจะไม่ช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น แต่ยังสร้างแรงต่อต้านของเด็กขึ้นมาแบบไม่รู้ตัวค่ะ
1. หยุดโยนของเล่นทิ้งเดี๋ยวนี้ – อาจฟังดูไม่แย่ แต่มันคือคำสั่งที่บอกว่าเขาจะต้องหยุด โดยที่เขาไม่มีโอกาสได้บอกเหตุผลเลยว่าทำไมถึงโยนมันทิ้ง
2. เด็กโตแล้วเขาไม่ทำแบบนี้หรอก – ยิ่งคุณใช้คำพูดนี้กับเด็กที่โตเท่าไร ยิ่งสร้างการต่อต้านมาเท่านั้น เพราะเขาไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมถึงไม่ควรทำแบบนี้
3. อย่าตีนะ – บางครั้งการตีของเด็กนั้นหมายถึงการเล่นอย่างหนึ่ง ฉะนั้นแทนที่จะบอกให้เขาหยุด คุณควรบอกเขามากกว่า ว่าทำไมจึงไม่ควรตี
4. ทำไมทำตัวแย่แบบนี้ – แม้จะเป็นการดุด้วยอารมณ์ แต่เชื่อเถอะว่าเด็กนั้นต้องการคำปลอบโยนอย่างเข้าใจ มากกว่าการดุ
5. ทนไม่ไหวแล้วนะ – การตะคอกด้วยคำนี้ แม้แต่คนวัยเดียวกันยังชวนให้รู้สึกโดดเดี่ยว แน่นอนว่าเด็กก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน
6. ไปแปรงฟันเดี๋ยวนี้ – ถึงจะเป็นความห่วงใยของพ่อแม่ แต่เด็กนั้นเข้าใจแค่ว่าคุณกำลังบังคับให้เขาทำในสิ่งที่เขาไม่ถนัด ดังนั้นพยายามหาแรงจูงใจอื่นมาช่วยดูจะได้ผลที่ดีกว่า
7. จะกินหรือจะหิวตาย – โอเค คุณอาจไมไ่ด้ใช้คำแรงแบบนี้ แต่เชื่อเถอะว่าการใช้ภาษาแบบนี้ มีแต่จะทำให้เด็กต่อต้านการกินข้าวหนักขึ้น
8. ทำไมห้องรกอย่างนี้ – ถึงจะเป็นแค่การตั้งคำถาม แต่กับเด็กแล้ว นี่เป็นคำพูดที่คุณจะโทษว่าที่ห้องรกนั้นเป็นความผิดของเขา
9. กลับได้แล้ว – เด็กไม่มีทางเข้าใจหรอกว่าเวลาไหนควรกลับบ้าน เพราะเขากำลังสนุก ฉะนั้นควรตั้งคำถามที่ทำให้เขาได้คิดว่า เขาเล่นมาพอแล้วหรือยัง
10. เลิกทำเสียงน่ารำคาญสักที – หนึ่งในวิธีเรียกร้องความสนใจของเด็กเล็กๆ คือการพูดด้วยเสียงโทนแปลก และแน่นอนว่ามันน่ารำคาญ แต่มันมีวิธีพูดเพื่อให้เขาหยุดมากกว่าการดุแรงๆ ที่อาจทำให้เด็กรู้สึกว่า เขาได้รับความสนใจแล้ว
11. หยุดบ่นสักที – สาเหตุที่เขาบ่นเพราะปัญหาของเขายังไม่ได้รับการแก้ ฉะนั้นวิธีที่ทำให้เขาหยุดบ่นได้ คือนั่งจับเข่าคุยกันว่าอะไรคือสาเหตุ
12. ต้องให้พูดซ้ำซากอีกกี่ครั้ง – แม้แต่ผู้ใหญ่แบบเรายังเผลอลืมสิ่งที่เคยพูดไปแล้ว แน่นอนว่าเด็กๆ จำเป็นต้องใช้เวลาในการจดจำมากกว่านั้นมาก และมันคงจะดีกว่าถ้าคุณจะไม่ดุด้วยความรู้สึกรำคาญ
13. อย่าท้อ ทำให้ได้ – เชื่อสิว่าผู้ใหญ่เราเวลาเจอปัญหายากๆ ยังรู้สึกอยากพักก่อนสมองก่อนจะกลับมาคิดต่อ แน่นอนว่าลูกของคุณก็ต้องการแบบนี้เหมือนกัน แม้มันจะเป็นปัญหาแบบ 1+2 เท่ากับเท่าไหร่ก็ตาม
14. กลับเข้าห้องเดี๋ยวนี้ / จะไปไหนก็ไป – คำพูดแบบนี้มีแต่จะทำให้ลูกของคุณรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งขึ้น และไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย
15. ไม่อายคนอื่นเขาหรือไง – คำพูดแบบนี้ไม่ได้ลูกคุณที่อาย แต่คุณกำลังอายต่อการกระทำของลูก และคุณมีวิธีเลือกคำพูดที่ดีกว่ามากในการแก้ปัญหาที่ลูกก่อ
16. การถอนหายใจและหลบสายตา – แม้แต่ผู้ใหญ่ยังรู้สึกแย่ที่เจอคู่สนทนาห่วยๆ แบบนี้ ฉะนั้นเด็กย่อมรู้สึกแย่กว่าหลายเท่า
17. จะมากไปแล้วนะ – อย่าหวังว่าเด็กจะเข้าใจว่าเขากำลังทำให้คุณโกรธ และนั่นยิ่งสร้างแรงต่อต้านกับความกลัวให้มากขึ้นไปอีก ในขณะที่ปัญหายังอยู่เหมือนเดิม
18. หยุดตะโกนสักที – วิธีนี้อาจจะได้ผลกับเด็กบางคน แต่สำหรับเด็กทุกคน การที่คุณเงียบแล้วพูดด้วยเหตุผลคือสิ่งที่เขาต้องการมากกว่า
19. ขี้เกียจจะพูดแล้ว – อย่าคิดว่าเด็กไม่เข้าใจความหมายของคำพูดพวกนี้ และแน่นอนว่าคุณเองก็รู้ว่าคำพูดนี้มันแย่แค่ไหน
20. เฮ้ย โมโหแล้วนะ – แทนที่จะตะโกนโวยวาย เปลี่ยนมาเป็นการเปรียบเทียบอารมณ์ด้วยสี เช่น เขียวคืออารมณ์ดี แดงคือโกรธ และโดยธรรมชาติของเด็ก เขาจะพยายามแก้ไขอีกสีให้เป็นอีกสี และคุณจะมีโอกาสได้คุยกับเขาดีๆ
21. ห้ามเปลี่ยน นี่ดีแล้ว – อาจเป็นปัญหาเวลาแต่งตัว ที่ลูกๆ ไม่อยากใส่ชุดที่คุณเลือกให้ แต่แทนที่จะบอกเขาว่าที่คุณเลือกมาเนี่ยดีที่สุดแล้ว ควรบอกเหตุผลด้วยว่าทำไมของที่เขาเลือกมาไม่เหมาะ และมันเหมาะจะใส่ไปไหน
22. อย่าเถียง – นอกจากจะทำให้เด็กต่อต้าน ผลลัพธ์นั้นอาจสะสมรุนแรงจนถึงขั้นที่ลูกไม่ยอมบอกอะไรคุณอีกเลย
23. อย่ามาโกรธพ่อ/แม่นะ – มันจะดีกว่ามากถ้าคุณจะไม่สั่งเขาแบบนี้ แต่ถามเขาว่าทำไมถึงโกรธคุณ เพราะถึงมันจะเป็นคำตอบที่ไม่ถูกใจคุณ แต่อย่างน้อยมันทำให้คุณกับลูกได้คุยกัน
24. อย่าเวอร์นักสิ – ในวัยช่างจินตนาการ เขาไม่รู้หรอกว่าอะไรคือเวอร์เกินไป อะไรคือพอดี และแทนที่คุณจะทำให้เขาต้องขายหน้า คุณสามารถบอกได้ว่า อะไรคือพอดี และเป็นความพอดีทั้งของคุณและลูก
25. หยุดเดี๋ยวนี้ – คำพูดนี้นอกจากจะใช้หยุดหมาได้แล้ว มันยังสามารถหยุดพัฒนาการและความคิดของลูกคุณได้ชะงัดมาก
บทความแนะนำ :
3 เทคนิคสอนลูกรักให้มั่นคง ไม่อ่อนไหวง่าย
14 ข้อสอนลูกรักให้ถูกทาง
7 เทคนิคสอนลูกรักให้เป็นคนดี จิตใจดี
“แกล้งเพื่อนไม่ดี” มีวิธีสอนลูกอย่างไร
ขอบคุณข้อมูลจาก : spokedark.com
