มารู้จัก!! โรคคาวาซากิ (Kawasaki) โรคร้ายในเด็ก ที่พ่อแม่ไม่ควรวางใจ!!
โรคคาวาซากิ (Kawasaki) โรคร้ายในเด็ก
หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกไข้ขึ้นสูงหลายวัน ไม่หายสักที ฝ่ามือฝ่าเท้ามีอาการบวมแดง หรือลอก มีผื่นตามตัว อย่าได้คิดว่าเป็นไข้ธรรมดานะคะ ควรพบและปรึกษาคุณหมอทันที…
โรคคาวาซากิ (Kawasaki disease) เป็นโรคที่เกิดการอักเสบของเยื่อบุผิวหนัง หลอดเลือดและต่อมน้ำเหลือง ส่วนใหญ่จะพบในเด็ก โดยพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิงเล็กน้อย และพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี
สาเหตุของโรคคาวาซากิ : ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเป็นการติดเชื้อ และเชื้อโรคกระตุ้นให้ร่างกายตอบสนองทางภูมิคุ้มกันผิดปกติ
อาการของโรคคาวาซากิ : ไข้สูงเฉียบพลัน ปากแดง ตาแดง มือเท้าบวม ปลายนิ้วมือนิ้วเท้าลอกหรือลอกที่บริเวณก้น ผื่นตามร่างกาย ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต
เกณฑ์การวินิจฉัย คือ
1. ไข้สูงเฉียบพลันอย่างน้อย 5 วัน
2. มีอาการ 4 ข้อจาก 5 ข้อ ดังต่อไปนี้
– ตาแดง 2 ข้างไม่มีขี้ตา
– ริมฝีปากแดง แห้ง แตก ลิ้นแดงผิวเหมือนสตรอเบอร์รี่
– มือเท้าบวม ผิวหนังลอกโดยเริ่มจากปลายนิ้ว
– ผื่นแดงพบได้หลายรูปแบบ ยกเว้น ตุ่มน้ำใส
– ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต ไม่เจ็บ
3. หาสาเหตุอื่นไม่ได้
ภาวะแทรกซ้อนของโรคคาวาซากิ : หลอดเลือดแดงที่เลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบโป่งพอง (coronary aneurysm) กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ลิ้นหัวใจอักเสบ หัวใจเต้นผิดจังหวะซึ่งภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวเป็นสาเหตุให้เกิดการเสียชีวิตได้ โดยการตรวจพบภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวต้องอาศัยการตรวจโดยใช้เครื่องตรวจคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (echocardiography)
การรักษาโรคคาวาซากิ : ผู้ที่ได้รับการรักษา ในเวลาที่เหมาะสม (ภายใน 10 วันหลังจากเริ่มอาการ) จะลดอาการที่เกี่ยวกับหลอดเลือดแดงหัวใจจากประมาณ 20-25 % ของผู้ป่วย ลงเหลือเพียงประมาณ 2-4%
ยาหลักที่ใช้และยอมรับโดยทั่วไปคือ อิมมูโนโกลบูลิน (Immunoglobulin) โดยให้ยาทางหลอดเลือดดำ และยาแอสไพรินส่วนยาอื่นๆ ก็จะดูตามความเหมาะสม คือตามอาการของผู้ป่วย
การป้องกัน : ปัจจุบัน ยังไม่ทราบสาเหตุของโรคคาวาซากิ จึงยังไม่สามารถป้องกันได้ แต่เป็นโรคที่รักษาได้ การรักษาที่ถูกต้อง รวดเร็ว จะป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งที่สำคัญ คือ หลอดเลือดแดงหัวใจโป่งพองได้มาก คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ให้เข้าใจธรรมชาติของโรคเพื่อการร่วมมือกันในการรักษาผู้ป่วยนะคะ
บทความแนะนำ :
ลูกร้องไห้อย่าง “ไม่มีเหตุผล” คุณแม่ควรทำอย่างไร?
หนาวนี้ เด็กแรกเกิด-4ปี ระวังเสี่ยงป่วยเป็น “โรคหัด” เตือนพ่อแม่ระวัง!!
ลูกมีอาการแบบนี้เป็น “โรคไฮเปอร์” หรือเปล่านะ มาเช็คกัน!!
เช็คสัญญาณเตือน ออทิสติกในเด็กเล็กมีอะไรบ้างนะ?
ขอบคุณข้อมูลจาก : theworldmedicalcenter.com และ haamor.com
ภาพจาก : healthxchange.sg

