01

ความผิดปกติแต่กำเนิดของท่อหลอดลมหรือสายเสียง บางคนมีเส้นเลือดงอกผิดปกติมาอยู่ล้อมรอบท่อหลอดลม บางคนมีเนื้องอกที่กล่องเสียง หรือมีเนื้องอกในช่องทรวงอกแล้วมาเบียดท่อหลอดลม ทำให้หายใจไม่สะดวก เจอได้ไม่บ่อย เด็กอาจมีอาการไอ เสียงแหบร่วมด้วย วินิจฉัยโดยส่องกล้องเข้าไปในท่อหลอดลมหรือเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ การรักษาขึ้นกับสาเหตุ เช่น ผ่าตัดหรือให้ยารักษาเนื้องอก

ภาวะกรดไหลย้อน (gastroesophageal reflux หรือ GER) เกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อหูรูดรอบหลอดอาหารที่อ่อนแรงกว่าปกติ ทำให้นมและน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่ท่อหลอดอาหาร หรือย้อนขึ้นมาถึงช่วงคอ ทำให้มีเสียงครืดคราดชัดเจนเวลากินนม เด็กมักมีอาการขย้อน แหวะนมหรืออาเจียนบ่อย ร้องกวนงอแง กล้วการกินนม ลำตัวแอ่นเกร็งเวลาดูดนม เพราะมีอาการปวดแสบจากกรดที่ไหลย้อน น้ำหนักตัวขึ้นไม่ดี วินิจฉัยโดยการเอ็กซเรย์กลืนแป้งหรือตรวจวัดความเป็นกรดที่หลอดอาหารหรือทดลองให้ยารักษา แล้วดูการตอบสนองว่าดีขึ้นหรือไม่ รวมถึงแนะนำเรื่องการให้นมอย่างถูกวิธี กินครั้งละน้อยๆแต่บ่อยๆ กินแล้วอุ้มตัวตั้งไว้นานๆ อย่ารีบวางนอนราบ

เพิ่งหายจากเป็นหวัดหรือโรคหลอดลมอักเสบ ก่อนหน้านี้ลูกมีอาการปกติดี แต่มีอาการเป็นหวัด เช่น อาจมีไข้ น้ำมูก ไอมีเสมหะ ได้พาไปพบหมอแล้ว ได้ยามากินแล้ว อาการดีขึ้น คือ ไข้ไม่มีแล้ว ไม่มีน้ำมูกและไอแล้ว แต่ยังรู้สึกว่าลูกยังมีอาการครืดคราดในคอหรือจมูกอยู่ ที่เป็นเช่นนี้ อธิบายว่า ในกรณีที่เป็นผู้ใหญ่หรือเด็กโต หากมีน้ำมูกหรือเสมหะก้อนสุดท้ายอยู่ในจมูกหรือในคอ จะสามารถสั่งน้ำมูกหรือไอเอาเสมหะออกมาได้ ทำให้หายจากอาการครืดคราดได้เร็ว แต่ในเด็กเล็กๆกำจัดออกมาไม่ได้ ต้องรอให้น้ำมูกหรือเสมหะนั้นค่อยๆเจือจางไปเอง จึงยังมีเสียงครืดคราดอีกระยะเวลาหนึ่ง โดยมากไม่เกิน 2 สัปดาห์

ลักษณะ 5 อย่างต่อไปนี้

  1. ร้องเสียงคล้ายแพะหรือแกะ(แอะๆๆ แอะๆๆ)
  2. ร้องเสียงเอี๊ยดอ๊าดคล้ายเสียงประตูไม้ขยับพร้อมกับมีอาการบิดตัวตลอดเวลา
  3. มีเสียงครืดคราดในคอ เพราะน้ำนมจากกระเพาะล้นขึ้นมาอยู่ที่คอหอย
  4. อาเจียนหรือแหวะนมบ่อย
  5. พุงกางตลอดเวลารูปทรงเป็นลูกน้ำเต้าหรือตุ๊กตาหิมะ หากลูกมีลักษณะดังกล่าว วิธีแก้ไขคือพยายามอย่าให้ลูกกินมากเกินไป ควรเบี่ยงเบนลูกไปทำอย่างอื่นบ้าง เช่น เล่นกับลูก ให้ดูดจุกหลอก หรือแม่ปั๊มนมออกก่อนให้ลูกดูด

 

Photo credit: women.thaiza.com