โรคมือเท้าปาก
แม่ติดเชื้อ “โรคมือเท้าปาก” จากลูก

หลายคนคิดว่า “โรคมือเท้าปาก” มีแค่เด็กเท่านั้นที่จะเป็นได้ อย่าชะล่าใจไปค่ะ เพราะล่าสุดมีคุณแม่ท่านหนึ่งติดโรคมือเท้าปากจากลูก ถึงขั้นผมร่วง เล็บมือ เล็บเท้าเป็นแผลลามไปเกือบทั้งตัว

mom1

โรคมือเท้าปาก

วันที่ 1 

ฉันสังเกตเห็นจุดแดง ๆ ที่ฝ่ามือ แต่ก็ไม่ได้สนใจมัน เพราะมัวห่วงแต่ Conran ลูกชายวัย 2 ขวบ ที่กำลังรักษาโรคมือเท้าปากอยู่ในโรงพยาบาล และอาการยังค่อนข้างน่าเป็นห่วง

วันที่ 2

จุดแดง ๆ บนฝ่ามือเพิ่มมากขึ้น แพทย์ก็สันนิษฐานว่าฉันเป็นโรคมือเท้าปาก และในเย็นวันนั้น จุดแดง ๆ ก็ลามไปทั่วทั้งฝ่ามือ นิ้วมือ เลยไปจนข้อมือของฉัน และมันทำให้ฉันรู้สึกคันมาก ๆ แต่ฉันทำได้แค่เพียงทาคาลาไมน์บรรเทาอาการ ไม่งั้นคงนอนไม่หลับแน่ ๆ

day3

วันที่ 3

ฉันตื่นมาพบว่าผื่นแดง ๆ ขึ้นเต็มมือไปหมด แถมยังเริ่มเป็นแผล มีอาการแสบ คันยิบๆ และเหมือนว่าฉันจะไม่สามารถกำมือได้ เพราะผื่นเหล่านั้นทำให้ฉันรู้สึกตึงไปทั้งฝ่ามือ แถมฉันยังพบว่ามีผื่นแดง ๆ ขึ้นที่ฝ่าเท้าอยู่หลายจุด

วันนี้ทั้งวันฉันแทบทำอะไรไม่ได้ แม้แต่ตอนเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูก มือที่ไปเสียดสีกับผ้าอ้อมก็ทำให้ฉันเจ็บจนแทบจะร้องไห้ ที่ร้ายไปกว่านั้นคือฉันเริ่มจะทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำได้อย่างยากลำบากแล้ว ดังนั้นพอสามีของฉันกลับมาถึงบ้าน ฉันจึงขอให้เขาพาไปโรงพยาบาล

คุณหมอวินิจฉัยแล้วว่าฉันเป็นโรคมือเท้าปากอย่างแน่นอน และยังบอกด้วยว่าเป็นเคสที่เกิดขึ้นน้อยมาก ที่จะพบโรคมือเท้าปากในผู้ใหญ่ อีกทั้งยังเตือนให้ฉันได้เตรียมใจไว้ด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ฉันอาจจะมีแผลในลำคอ และอาจเดินได้ลำบากมากขึ้น เพราะจะมีแผลพุพองที่ฝ่าเท้า

วันที่ 4

มือของฉันเริ่มบวมและรู้สึกตึงไปหมด จนไม่สามารถจะหยิบจับหรือช่วยเหลือตัวเองได้เลย นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ต้องพึ่งพยาบาลให้อาบน้ำและทำอะไรหลาย ๆ อย่างให้แทน และวันนี้ก็ยังถูกฉีดของเหลวเข้าร่างกายหลายครั้ง เพื่อป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำที่อาจเกิดขึ้นได้

วันที่ 5

อาการเจ็บคอทวีความรุนแรงมากขึ้น จนแทบกลืนอาหารหรือน้ำได้ลำบาก โดยเฉพาะตอนดื่มน้ำเย็น ที่ทำให้ฉันเจ็บคอเหมือนกลืนลูกบอลแข็ง ๆ ในที่สุดฉันก็ถอดใจ เลิกกินทั้งอาหารและน้ำไปเลย

วันที่ 6

วันนี้ก็ยังคงกินอะไรไม่ได้ เพราะอาการเจ็บคอที่ร้ายกาจ ฉันจึงได้แต่ดูทีวีแก้เบื่อไปอย่างนั้น แต่ที่เศร้ามากกว่าคือฉันเจ็บฝ่ามือจนอุ้มลูกชายไม่ได้ แต่เขาก็ดูเหมือนจะเข้าใจตอนที่ฉันบอกว่าอุ้มหรือจับเขาไม่ได้เพราะแม่เจ็บฝ่ามือมาก ๆ

วันที่ 7

อาการของโรคมือเท้าปากยังลามอย่างต่อเนื่อง จากฝ่ามือลามมายังแก้ม ปาก ลิ้น และคาง แต่วันนี้ก็ยังถือว่าโชคดีที่ฉันเริ่มกินอะไรได้บ้างแล้ว อย่างน้อยก็ยังมีชาคาโมมายล์ใส่น้ำแข็งนี่แหละที่ฉันดื่มได้โดยไม่รู้สึกทรมานลำคอเท่าไร

วันที่ 8

          มือของฉันเริ่มแตกลอกเป็นแผ่น ๆ เหมือนผิวหนังบอบบางจนพร้อมจะเสียหายได้ทุกเมื่อ แพทย์ผิวหนังเห็นอาการของฉันจึงให้ครีมสำหรับทามาบรรเทาอาการ

วันที่ 9

จากที่เป็นแค่ผื่นและผิวลอก วันนี้ผิวที่มือของฉันเริ่มแตกและกลายเป็นแผลใหญ่ แต่นั่นก็ยังไม่ทรมานเท่าความหิวเพราะขาดอาหารมาหลายวัน ฉันจึงจัดเต็มอาหารทุกจานจนเกลี้ยงเลย

วันที่ 10

วันนี้ฉันก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้มากเท่าไร แม้แต่การเปิดกล่อง หรือหวีผมยังทำไม่ได้เลย

วันที่ 11

แผลพุพองที่ฝ่ามือเริ่มแห้งแล้ว วันนี้ฉันเลยลองพยายามอาบน้ำด้วยตัวเอง แม้จะต้องใส่ถุงมืออาบน้ำเพื่อป้องกันแผลเปื่อยก็ตาม แต่อย่างน้อยก็คงได้ทำอะไรด้วยตัวเองบ้างล่ะน่า

ส่วนแผลในปากก็หายแล้ว และแน่นอนว่าฉันก็สั่งให้สามีซื้ออาหารมาให้กินเพียบ ไม่พลาดทั้งขนมโปรด และชานมของชอบ

วันที่ 12

เท้าของฉันยังคงบวมและตึงอยู่นิด ๆ แต่ก็พอเดินไหว เพราะไม่ค่อยมีอาการเจ็บเท้าอีกแล้ว อีกอย่างจุดแดง ๆ ที่ฝ่ามือก็เริ่มน้อยลง ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีเลยทีเดียว

วันที่ 13

ฉันได้กลับบ้านแล้ว แต่หมอก็ยังสั่งให้มารักษาตัวต่อเนื่องอีก 3 สัปดาห์ และพยายามอย่าออกจากบ้านไปไหน เพราะแผลที่มือของฉันก็ยังไม่หายดีเท่าไร คงต้องมาเยี่ยมหมอและพยาบาลต่อไปอีกสักระยะ

ช่วงพักฟื้นที่บ้าน

ฉันคิดว่าช่วงเลวร้ายได้ผ่านพ้นไปแล้วนะ แต่มันยังไม่จบแค่นั้น ! เพราะแผลที่เท้าฉันเริ่มลอก และมันเจ็บมาก จนการยืนและเดินเป็นเรื่องที่ต้องมาพยายามกันอีกครั้ง ซึ่งมันก็ไม่ง่ายอย่างที่หวังเอาไว้เลย ส่วนฉันก็เริ่มหงุดหงิดใจกับการที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แม้จะอยู่ในช่วงพักฟื้นก็ตาม

หลังจากนั้นอาการของฉันเหมือนจะยิ่งแย่เข้าไปอีก เมื่อเล็บเริ่มหลุด ผมเริ่มร่วง และแม้หมอจะบอกว่านี่คือหนึ่งในอาการของโรค แต่ฉันรู้สึกรับสภาพตัวเองตอนนี้แทบไม่ได้ ฉันกลับไปทำอะไรไม่ได้เหมือนตอนที่ป่วย แม้กระทั่งจะแกะสติ๊กเกอร์ให้ลูกชาย มันก็เป็นเรื่องยากเกินที่ฉันจะทำได้ไหว

 ทว่าสุดท้ายฉันก็ต้องอยู่กับมันให้ได้และสู้กับโรคมือเท้าปากต่อไป ฉันจึงพยายามแก้ปัญหาด้วยการหาผ้าพันแผลมาพันที่นิ้ว ซึ่งก็ช่วยบรรเทาความเจ็บและทำให้ฉันรู้สึกดีได้ในระดับหนึ่ง แต่เรื่องที่ทำให้ฉันต้องร้องไห้อยู่หลายวัน ก็คือปัญหาผมร่วงที่แก้ไม่หาย ป้องกันก็ไม่ได้ ทำให้ผมที่ยิ่งบางอยู่แล้วของฉันยิ่งบางเข้าไปใหญ่ เรื่องนี้ทำให้ฉันเศร้าใจจริง ๆ

แต่ในที่สุดฉันก็ต้องขอบคุณกำลังใจจากครอบครัวและคุณหมอทุกท่าน ที่คอยอยู่เคียงข้าง และปลอบให้ฉันสู้กับโรคมือเท้าปากนี้มาได้ และแม้ว่าฉันจะต้องรอให้เล็บงอกมาใหม่นานกว่า 2 เดือน แต่ก็นับว่าเป็นการรอที่คุ้มค่า และอย่างน้อยฉันก็ได้เข้าใจความหมายของคำว่า “เวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง” อย่างถ่องแท้

day4_7

   คุณหมอแนะนำให้ป้องกันโรคมือเท้าปากในผู้ใหญ่โดยการ

1. ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนจะรับประทานอาหาร
2. ยึดปฏิบัติหลักกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อย่างเคร่งครัด
3. หมั่นดูแลรักษาสุขอนามัยรอบ ๆ ตัวอยู่เสมอ
4. ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อรู้สึกป่วย หรืออยู่ในสถานที่ที่มีการแพร่เชื้อโรค (ที่แออัด)
5. ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัว เช่น แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดตัว แก้วน้ำ หลอดดูด ช้อน ร่วมกับผู้อื่น

 

บทความแนะนำ :

ไข้ดำแดง โรคติดต่อในเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม
โรคมือเท้าปากในเด็ก อันตรายที่พ่อแม่ต้องระวัง!!!
โรคมือเท้าปาก ระบาดหนักอีกครั้ง แพร่เชื้อเพิ่ม 5 เท่า เด็กเสียชีวิตแล้ว 3 ราย!!
โนโรไวรัส โรคท้องเสียในเด็กที่กำลังระบาดหนัก อันตรายแค่ไหน?

ขอบคุณข้อมูลจาก :  kapook