ภัยใกล้ตัวลูกน้อยกับอันตรายที่คาดไม่ถึง!!!
![]^d](https://mumhelper.com/wp-content/uploads/2016/08/^d.jpg)
โรคเฮอร์แปงไจนา พบได้บ่อยในเด็กชายและเด็กหญิง ช่วงอายุ 3 – 10 ปี พบได้ในทุกฤดูและระบาดมากในช่วงฤดูร้อนของทุกปี โรคเฮอร์แปงไจนา เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มคอกแซกกีไวรัสกรุ๊ปเอ มีอาการคล้ายเคียงกับ โค มือ เท้า ปาก คุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับโรคนี้กันค่ะ
อาการที่บ่งบอกว่าลูกรักเป็นโรคเฮอร์แปงไจนา
- มีไข้สูง 41 องศาเซลเซียส
- มีปวดศีรษะ ปวดตามตัว
- บางคนอาจมีอาเจียน
- อาการเจ็บบริเวณเพดานปากและคอนำมาก่อน ต่อมา (ภายใน 1 วัน) จะมีจุดแดงๆบริเวณเพดานอ่อน ลิ้นไก่ และอาจมีตุ่มแดงที่ทอนซิล หรือบริเวณในลำคอด้วยก็ได้
- ภายใน 24 ชั่วโมง จุดแดงๆ จะกลายเป็นตุ่มแดงขนาดเริ่มต้น 1-2 มิลลิเมตร แล้วกลาย เป็นตุ่มน้ำขนาด 2-4 มิลลิเมตร หรือใหญ่กว่าและพบว่าเกิดขึ้น ไม่เกิน 6 ตุ่ม แต่ก็อาจพบมากกว่า 15 ตุ่มได้มีอาการเจ็บที่ตุ่มร่วมด้วย
การรักษา โรคเฮอร์แปงไจนา เนื่องจากโรคเฮอร์แปงไจนา ยังไม่มีวัคซีน และยาเฉพาะโรคป้องกัน การรักษาจึงรักษาตามอาการของโรค ซึ่งในเด็กแต่ละคน มีอาการมากน้อยแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่แล้ว เน้นการดูแลเพื่อให้ไข้ลดลงเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการติดเชื้ออย่างอื่นแทรก แพทย์จะไม่ให้ปฏิชีวนะ ยกเว้น ในรายที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
การป้องกันโรคเฮอร์แปงไจนา เนื่องจากยังไม่มีวัคซีนป้องกัน พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถปกป้องลุกรักให้ห่างไกลจากเชื้อโรคดังกล่าวได้ดีที่สุด คือ การล้างมือ ทุกครั้งหลังกลับจากโรงเรียน หรือไปนอกบ้านมาโดยเฉพาะสถานที่แอดอัด ฝึกให้ลูกรู้จักล้างมือเน้นซอกนิ้วมือ ก่อน หลัง รับประทานอาหาร ทำความสะอาดของเล่นและสิ่งแวดล้อม หากพบว่าในโรงเรียนมีเด็กป่วยเป็นโรคดังกล่าว ต้องสั่งปิดทันที แค่นี้ลูกรักก็ห่างไกลจากโรคแล้วค่ะ
Photo credit: dentalblissbangkok.com
