โรคไข้ปวดข้อยุงลายหรือโรคชิคุนกุนยา

หลังจากกรณีที่มีรายงานข่าว พบเด็กนักเรียนและครูชาวสิงคโปร์ติดเชื้อชิคุนกุนยาจำนวน 14 รายโดยมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดตามตัว อาเจียน ซึ่งผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่าติดเชื้อโรคไข้ปวดข้อยุงลาย ล่าสุดได้รับรายงานว่านักเรียนและครูชาวสิงคโปร์ที่ติดเชื้อหายเป็นปกติ และได้เดินทางกลับประเทศแล้ว วันนี้ทางคันปากจึงขอนำเสนอโรคไข้ปวดข้อยุงลาย และวิธีการป้องกัน เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เตรียมพร้อมรับมือกัน!

โรคไข้ปวดข้อยุงลายหรือโรคชิคุนกุนยา เป็นโรคติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา ที่มีทั้งยุงลายสวนและยุงลายบ้าน เป็นพาหะนำโรค ซึ่งพบได้ในทุกกลุ่มอายุ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงอย่างฉับพลัน มีผื่นแดงขึ้นตามร่างกาย และอาจมีอาการคันร่วมด้วย พบตาแดง แต่ไม่ค่อยพบจุดเลือดออกในตาขาว ส่วนใหญ่ในเด็กอาการไม่รุนแรงเท่าผู้ใหญ่ โดยอาการเด่นชัดในผู้ใหญ่คือปวดข้อ อาจพบข้ออักเสบได้ ซึ่งเป็นที่ข้อเล็กๆ เช่น ข้อมือ ข้อเท้า อาการปวดข้อ จะพบได้หลายๆ ข้อเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ อาการจะรุนแรงมากจนบางครั้งขยับข้อไม่ได้ และอาการจะหายภายใน 1-2 สัปดาห์ บางรายอาจมีอาการปวดข้อนานเป็นเดือนหรือเป็นปีได้ ไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นช็อก ซึ่งโรคนี้ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ จะคล้ายๆ กับไข้หวัดที่มีไวรัสเป็นสาเหตุเช่นเดียวกัน จึงต้องรักษาตามอาการ จนกว่าร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานมากำจัดโรคได้

นายแพทย์สุวรรณชัย ได้แจ้งการกำจัดยุงลาย  โดยยึดหลัก 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค คือ

1.เก็บบ้านให้สะอาด ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง

2.เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

3.เก็บน้ำ ภาชนะใส่น้ำต้องปิดฝาให้มิดชิดป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ทั้งนี้ จะสามารถป้องกันได้ 3 โรคในคราวเดียวกัน คือ 1.โรคไข้เลือดออก 2.โรคติดเชื้อไวรัสซิกา 3.โรคไข้ปวดข้อยุงลาย อย่างไรก็ตาม การกำจัดยุงลายนั้น ต้องเริ่มกำจัดตั้งแต่ตอนเป็นลูกน้ำเพราะอยู่ในภาชนะที่เราสามารถจัดการได้ ส่วนยุงบินนั้น ประชาชนอาจซื้อสเปรย์กระป๋องมาฉีดพ่นเองภายในบ้านเพื่อกำจัดยุงลายตัวที่มีเชื้อ ส่วนรอบนอกสาธารณะ เทศบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาดูแลร่วมกัน